ยินดีต้อนรับสู่กลุ่ม IAT
service@iatsingapore.com +65 9199 5851
ภาษา

การประยุกต์ใช้เครื่องวิเคราะห์ IAT NIR ในอุตสาหกรรมแป้ง

September 19 แหล่งที่มา: เรียกดูอัจฉริยะ: 110

ใน อุตสาหกรรมแป้ง ที่เน้นคุณภาพและการแข่งขัน สูง การวิเคราะห์พารามิเตอร์สำคัญอย่างแม่นยำและรวดเร็วถือเป็นสิ่งสำคัญในการรับรองความสม่ำเสมอของผลิตภัณฑ์ การปรับกระบวนการผลิตให้เหมาะสม และการปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านอาหารที่เข้มงวด การนำเครื่องวิเคราะห์เทคโนโลยีการดูดซับอินฟราเรด (IAT) มาใช้โดยเทคโนโลยี IAT (สิงคโปร์) ได้เปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมด้วยการให้โซลูชันที่เชื่อถือได้ ไม่ทำลาย และมีประสิทธิภาพในการตรวจจับส่วนประกอบที่สำคัญในแป้ง รวมถึงความชื้น เถ้า โปรตีน กลูเตน และอัตราการดูดซึมน้ำ

Flour Industry

ความแม่นยำและความเร็ว: ข้อได้เปรียบที่ไม่มีใครเทียบได้

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ IAT ประสบความสำเร็จคือเครื่องวิเคราะห์ NIR ขั้นสูง ซึ่งใช้สเปกตรัมการดูดกลืนที่แตกต่างกันของโมเลกุลต่างๆ ในแป้งเพื่อให้การวัดผลมีความแม่นยำสูงและรวดเร็ว เทคโนโลยีล้ำสมัยนี้ช่วยลดเวลาที่ต้องใช้ในวิธีการแบบเดิมๆ เช่น เคมีแบบเปียกได้อย่างมาก ทำให้ได้ผลลัพธ์ภายในไม่กี่วินาทีแทนที่จะเป็นหลายชั่วโมงหรือหลายวัน การผสมผสานระหว่างความเร็วและความแม่นยำทำให้โรงสีแป้งสามารถตัดสินใจตามข้อมูลแบบเรียลไทม์ได้ ทำให้ปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตได้ทันทีเพื่อรักษาคุณภาพผลิตภัณฑ์ให้สม่ำเสมอ

การตรวจจับพารามิเตอร์หลัก: ข้อมูลเชิงลึกที่ครอบคลุม

ข้อได้เปรียบที่สำคัญประการหนึ่งของเครื่องวิเคราะห์ IAT NIR คือความสามารถในการตรวจจับพารามิเตอร์ที่สำคัญได้หลากหลายในเวลาเดียวกัน ซึ่งได้แก่:

1. ปริมาณความชื้น : การวัดความชื้นอย่างแม่นยำมีความสำคัญต่อการควบคุมความสม่ำเสมอของแป้ง ป้องกันการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ และปรับสภาพการจัดเก็บให้เหมาะสม เครื่องวิเคราะห์ของ IAT ให้การอ่านค่าความชื้นที่แม่นยำแบบเรียลไทม์ ช่วยให้ปรับค่าได้ทันทีเพื่อรักษาระดับที่เหมาะสม

2. ปริมาณเถ้า : ปริมาณเถ้าเป็นตัวบ่งชี้ปริมาณแร่ธาตุ ส่งผลโดยตรงต่อคุณค่าทางโภชนาการและการใช้งานแป้งขั้นสุดท้าย เทคโนโลยีของ IAT ช่วยให้วัดปริมาณเถ้าได้อย่างน่าเชื่อถือ ช่วยให้ผู้ผลิตปรับแต่งผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับความต้องการเฉพาะได้

3. ปริมาณโปรตีนและกลูเตน : โปรตีนและกลูเตนเป็นส่วนประกอบสำคัญที่จำเป็นต่อการประเมินคุณภาพการอบและลักษณะของผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายของแป้ง เครื่องวิเคราะห์ของ IAT ช่วยให้ประเมินส่วนประกอบเหล่านี้ได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้โรงสีสามารถแยกและผสมแป้งได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งานต่างๆ

4. อัตราการดูดซึมน้ำ : ความเข้าใจเกี่ยวกับอัตราการดูดซึมน้ำถือเป็นสิ่งสำคัญในการคาดการณ์พฤติกรรมของแป้งและรับรองผลลัพธ์การอบที่สม่ำเสมอ เทคโนโลยีของ IAT มอบข้อมูลที่สำคัญนี้ ซึ่งช่วยให้ปรับสูตรได้อย่างแม่นยำเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้น

การทดสอบแบบไม่ทำลาย: การเก็บรักษาตัวอย่างและทรัพยากร

ข้อดีที่โดดเด่นของเครื่องวิเคราะห์ NIR ของ IAT คือลักษณะที่ไม่ทำลายตัวอย่าง ซึ่งแตกต่างจากวิธีการดั้งเดิมที่ต้องทำลายตัวอย่าง การวิเคราะห์ NIR ช่วยให้สามารถทดสอบซ้ำกับตัวอย่างเดียวกันได้ ทำให้วัสดุที่มีค่าสามารถวิเคราะห์หรือนำไปใช้งานต่อไปได้ วิธีนี้ไม่เพียงแต่ลดต้นทุน แต่ยังช่วยลดของเสียอีกด้วย ช่วยให้อุตสาหกรรมแป้งมีความยั่งยืนมากขึ้น

ความสะดวกในการใช้งานและการบูรณาการ: การปรับปรุงการดำเนินงาน

เครื่องวิเคราะห์ของ IAT ได้รับการออกแบบด้วยอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายซึ่งต้องการการฝึกอบรมเพียงเล็กน้อย ทำให้ผู้ปฏิบัติงานทุกระดับเข้าถึงได้และลดความจำเป็นในการใช้บุคลากรเฉพาะทาง นอกจากนี้ เครื่องวิเคราะห์เหล่านี้ยังสามารถผสานเข้ากับสายการผลิตที่มีอยู่ได้อย่างราบรื่นสำหรับการตรวจสอบแบบอินไลน์หรือออนไลน์ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมกระบวนการและประสิทธิภาพการทำงานให้ดียิ่งขึ้น

บทสรุป

การนำเครื่องวิเคราะห์ NIR ของ IAT (สิงคโปร์) Technology มาประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมแป้ง ถือเป็นก้าวสำคัญในการควบคุมคุณภาพและเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการ เครื่องวิเคราะห์เหล่านี้ให้การวิเคราะห์ที่แม่นยำ รวดเร็ว และไม่ทำลายพารามิเตอร์สำคัญ เช่น ความชื้น เถ้า โปรตีน กลูเตน และอัตราการดูดซึมน้ำ ทำให้โรงสีสามารถตัดสินใจโดยใช้ข้อมูลได้ ซึ่งช่วยให้แน่ใจได้ว่าคุณภาพของผลิตภัณฑ์จะสม่ำเสมอ เพิ่มประสิทธิภาพ และลดต้นทุน ในขณะที่อุตสาหกรรมยังคงพัฒนาต่อไป การนำเทคโนโลยี NIR ของ IAT มาใช้จะเป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญของนวัตกรรมและความยั่งยืน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โซลูชั่น